ส่องหุ้น EA

 

วันนี้หุ้นที่ผมจะหยิบมาคุยกับทุกท่าน คือ หุ้น EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน โดยผมจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับบริษัทฯ รวมถึงดูผลประกอบการที่ผ่านมา และแผนการเติบโตของบริษัทฯ กันครับ




ธุรกิจของ EA


EA มีธุรกิจอยู่  3 ส่วน คือ กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล กลุ่มธุรกิจโรงงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ

กลุ่มธุรกิจไบโอดีเซล


ในกลุมธุรกิจไบโอดีเซลมีผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จำหน่ายอยู่ 4 ส่วน คือ
  1. ไบโอดีเซล คือ การนำเชื้อเพลิงเหลวที่ผลิตได้จากน้ำมันพืชและไขมันสัตว์
  2. กลีเซอรีน สามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารเคมีอื่นๆ ได้ มักนิยมใช้มากในอุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง สบู่
  3. สารเปลี่ยนสถานะ (Phase change material, PCM) คือ วัสดุที่มีความสามารถในการกักเก็บพลังงานสูง ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ที่ค่าใดค่าหนึ่ง
  4. ผลิตถัณฑ์พลอยได้ ได้แก่ ครูด กลีเซอรีน (Crude Glycerine) และกรดไขมันอิสระ (Free Fatty Acid : FFA) 
ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน


อย่าง B100 ที่ได้จากไบโอดีเซลก็จะถูกส่งไปขายให้กับบริษัทโรงกลั่นน้ำมันอย่าง ปตท. Esso  กลีเซอรีนก็จะถูกขายให้กับบริษัทที่ทำเครื่องสำอางค์ หรือ PCM ก็จะถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ เป็นต้น


หากเรามองที่สัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจนี้ จะพบว่ารายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากไบโอดีเซล ซึ่งราคาค่อนข้างผันผวนขึ้นกับความต้องการภายในประเทศ


กลุ่มธุรกิจโรงงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน


ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน EA มีโรงไฟฟ้าอยู่ 2 ประเภท คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวม  664 MW เริ่ม COD มาตั้งแต่ปี 2012

ข้อดีของธุรกิจนี้ คือ มีลูกค้าที่ค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากขายไฟฟ้าให้ภาครัฐ นอกจากนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมพลังงานสะอาดรัฐยังออกเงินอุดหนุนให้อีกด้วย ซึ่งเงินอุดหนุนเหล่านี้จะค่อย ๆ หมดไปตามสัญญาที่ทำไว้กับรัฐนั้นเอง


ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า รายได้ของกลุ่มธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหากเรามองที่สัดส่วนรายได้จะพบว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากเงินส่วนอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า หรือ adder นั้นเอง ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะค่อย ๆ หมดไปตามสัญญาที่ทำไว้กับภาครัฐ 

กลุ่มธุรกิจอิ่น ๆ 


กลุ่มธุรกิจนี้ เป็นกลุ่มธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน และมีแนวโน้มที่จะเป็น Trend ของอนาคต เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่ ซึ่ง EA ได้ไปลงทุนในบริษัท AMITA ที่ไต้หวัน และได้มาเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย จากธุรกิจแบตเตอรี่ก็ได้ขยายไปสู่สถานีชาร์จรถ EV และผลิตรถไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และรถบัสไฟฟ้าในที่สุด


โครงสร้างรายได้

เมื่อเราดูที่โครงสร้างรายได้ จะพบว่าในช่วงแรกรายได้ส่วนใหญ่ของ EA มาจากธุรกิจไบโอดีเซล แต่รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเติบโตอย่างมาก


จนทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร โดยหากเราดูสัดส่วนรายได้ของปี 2015 เทียบกับปี 2019 จะพบว่า สัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจไบโอดีเซลลดลงจาก 57% มาเหลือ 25% ส่วนกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเติบโตจาก 43% มาเป็น 74% นอกจากนั้นในปี 2019 ยังมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่นอยู่เพียง 1% เท่านั้น



ผลประกอบการที่ผ่านมา


หากเราย้อนไปดูผลประกอบการของ EA ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2011 - 2019 จะพบว่ารายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • โดยรายได้เติบโตจาก 5,431 ล้านบาท ในปี 2011 มาเป็น 14,954 ล้านบาท ในปี 2019 คิดเป็นการเติบโต 13.50% ต่อปี 
  • ส่วนกำไรเติบโตจาก 63.02 ล้านบาท ในปี 2011 มาเป็น 6,081.62 ล้านบาท ในปี 2019 คิดเป็นการเติบโต 77.04% ต่อปี 
ส่งผลให้ตัวเลขสำคัญทางการเงินของ EA ดูดีเลยทีเดียว



การเติบโตในอนาคต

EA มีแผนเติบโตที่น่าสนใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำ MOU กับ Partner เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว


หรือ แผนในการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2021 นี้ 


รวมไปถึงแผนในการเพิ่มจำนวนจุดชาร์จรถไฟฟ้าในประเทศอีกด้วย


ทั้งหมดนี้นำไปสู่แผนที่จะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจ EV เพิ่มขึ้นมาเป็น 27% จากรายได้ทั้งหมดในอนาคต



ราคา

หุ้น EA ณ วันที่ 24 มกราคม 2564 มีราคาอยู่ที่ 61.75 บาท คิดเป็น P/E ประมาณ 42.11 เท่า และ P/BV ประมาณ 8.65 เท่า หากลองไปเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน อย่าง BCPG และ GPSC จะเป็นดังนี้


ซึ่งจะพบว่า EA มีความสามารถในการบริหารสภาพคล่อง บริหารหนี้สิน และความสามารถในการทำกำไรค่อนข้างดี แต่ราคาก็แพงก็ชาวบ้านอยู่พอสมควร


ติดตาม “InvesTalk – สนทนาภาษานักลงทุน” ได้ทาง 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น